“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ประเมินคาดการณ์ผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 66 และคาดกำไรสุทธิธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วง 9 เดือนปี 66 จะทำได้ 1.86-1.91 แสนล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังน่าจะเติบโตต่อเนื่องและเป็นแรงหนุนสำคัญของผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายของปี 66 โดยการประคองผลการดำเนินงานท่ามกลางความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศ ยังคงเป็นโจทย์ที่กระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเร่งปรับตัวคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต
ขณะที่ในไตรมาสสุดท้ายของปี 66 จะยังคงเห็นความพยายามของธนาคารพาณิชย์ในการจัดการปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ หรือหนี้เสียเอ็นพีแอล คาดจะอยู่ที่ 2.63-2.67% ต่อสินเชื่อรวม และจัดการเตรียมสภาพคล่องเพื่อพร้อมรองรับความต้องการใช้สภาพคล่องในระบบที่อาจเพิ่มขึ้นตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมไปถึงการดูแลให้การเติบโตของเงินฝากสอดคล้องกับสัญญาณสินเชื่อ โดยอาจมีการออกแคมเปญเงินฝากประจำพิเศษต่อเนื่องเพื่อระดมสภาพคล่อง และแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เพื่อเป็นตัวเลือกของผู้ฝากเงินในช่วงปลายปี นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์คงต้องเตรียมปรับตัวเพื่อรับมือกับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 67 ด้วยเช่นกันคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยหนุนส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย หรือนิม ของระบบแบงก์ไทยให้ขยับขึ้นมาอยู่ในกรอบ 3.14-3.18% ในไตรมาส 3 ปี 66 แต่คงต้องยอมรับว่า ต้นทุนการระดมเงินฝากก็อาจขยับสูงขึ้นในไตรมาส 3 ปี 66 ด้วยเช่นกัน
ด้านสินเชื่อ คาดว่า สินเชื่อยังเติบโตในกรอบต่ำที่ 0.1-0.3% ในไตรมาส 3 ปี 66 ขณะที่การปรับสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในระหว่างไตรมาสก็อาจมีผลกระทบต่อการบันทึกมูลค่าตามราคาตลาดของสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนของธนาคารพาณิชย์ และเมื่อรวมผลของปัจจัยนี้เข้ากับภาพรวมรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่ยังชะลอตัว ก็อาจทำให้รายได้ในส่วนที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาส 3 ปี 66 มีทิศทางชะลอลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 66 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน ทำให้การดูแลคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อยังคงเป็นโจทย์ต่อเนื่องที่สำคัญของธนาคารพาณิชย์ โดยในไตรมาส 3 ยังคงเห็นธนาคารพาณิชย์ติดตามและประเมินความสามารถในการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้ ช่วยลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ ควบคู่กับการเร่งจัดการหนี้เสีย เพื่อรักษาระดับหนี้เสีย และลดแรงกดดันต่อค่าใช้จ่ายในการกันสำรองฯ ขณะที่สัดส่วนการตั้งสำรองฯ ต่อสินเชื่อ อาจลดลงเล็กน้อยมาอยู่ในกรอบ 1.25-1.29% แต่ยังสูงกว่าสถานการณ์ปกติ
“แม้อัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ขยับขึ้นจะช่วยหนุนรายได้ดอกเบี้ย แต่ต้นทุนเงินฝากก็เร่งตัวขึ้นเช่นกัน ทำให้นิมของระบบแบงก์ไทยไตรมาส 3 ขยับขึ้นในกรอบจำกัด ด้านภาพรวมสินเชื่อยังเติบโตในกรอบต่ำ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ยังเร่งปรับโครงสร้างลูกหนี้และจัดการหนี้ด้อยคุณภาพในเชิงรุกเพื่อดูแลหนี้เสีย และลดแรงกดดันต่อการกันสำรองฯ ช่วงที่เหลือของปี 66 แม้นิมจะยังขยับขึ้น แต่ความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจ ยังเป็นโจทย์หลักในการประคองรายได้ส่วนอื่นๆ”